เริ่มแล้ว พ.ค. 66 นี้ ธนาคารไหนใช้ระบบ "สแกนใบหน้า"

เริ่มแล้ว พ.ค. 66 นี้ ธนาคารไหนใช้ระบบ “สแกนใบหน้า”

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมของปีนี้ เริ่มมีธนาคารใช้ระบบ “สแกนใบหน้า” ในการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้กันมากขึ้นในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ โดยการใช้เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินเป็นไปอย่างรวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น

3505-Face-Scan-6

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศมาตรการในการจัดการภัยทุจริตทางการเงินเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งมีมาตรการหนึ่งที่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ทุกธนาคารจะต้องปฏิบัติตาม นั่นคือการใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Biometrics) เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงิน โอนเงิน หรือจ่ายเงิน ซึ่งจะช่วยป้องกันการภัยทุจริตและการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เมื่อมีการทำธุรกรรม ดังต่อไปนี้

  • โอนวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อรายการ
  • โอนวงเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน
  • การปรับเพิ่มวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อวัน

ตามมาตรการป้องกันภัยทุจริตทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ทุกสถาบันการเงินจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งทำให้มีธนาคารหลายแห่งที่ประกาศให้ลูกค้าทราบเพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบถึงมาตรการใหม่ๆ ที่จะเข้ามาบังคับใช้ ล่าสุดมีธนาคารบางแห่งได้ประกาศให้ลูกค้าทราบว่ามีมาตรการใหม่เรียบร้อยแล้ว และจะเข้าใช้งานในเร็วๆ นี้ โดยจะมีธนาคาร ดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงเทพ

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงกิ้ง ธนาคารกรุงเทพจะเพิ่มระบบการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (ไบโอแมตทริกซ์) เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า จึงขอเรียนเชิญผู้ใช้บริการให้เตรียมพร้อมและอัปเดตแอปพลิเคชันโมบายแบงกิ้งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างสมบูรณ์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3505-Face-Scan-1

ทางธนาคารจึงแจ้งให้ทราบว่าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน ทางธนาคารได้กำหนดมาตรการใหม่เพิ่มเติมเมื่อท่านทำการโอนเงินหรือเติมเงินพร้อมเพย์ / G-Wallet ดังต่อไปนี้

การโอนเงินไปยังบุคคลอื่น หรือเติมเงินพร้อมเพย์ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ
หากท่านทำรายการเติมเงินพร้อมเพย์ หรือโอนเงินสะสมตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปต่อวัน
การขอปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน และจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน

โดยทางธนาคารขอเรียนให้ผู้ใช้บริการทุกท่านเตรียมพร้อมและมาอัปเดตข้อมูลส่วนตัวและถ่ายรูปใบหน้าให้เป็นปัจจุบันที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถใช้บริการทางการเงินได้อย่างต่อเนื่องและสะดวกสบาย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการแอปพลิเคชัน KMA และ Krungsri Biz Online ที่ยังไม่เคยมีรูปถ่ายบนระบบของทางธนาคาร สามารถนำบัตรประชาชนมาติดต่อที่ธนาคารกรุงศรีได้ทุกสาขา เพื่อเพิ่มใบหน้าในระบบได้ทันที โดยทำการติดต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารและนำบัตรประชาชนมาอัปเดตข้อมูลและถ่ายรูปใบหน้า จะช่วยให้การใช้งานแอปพลิเคชันของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความปลอดภัย

3505-Face-Scan-2

เพิ่มความปลอดภัยในการทำรายการต่างๆ กับธนาคาร ป้องกันการสวมรอย และใช้ยืนยันการทำรายการที่มียอดเงินสูงรวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินผ่านแอปฯ เร็ว ๆ นี้ อีกทั้งเพิ่มความสะดวกในกรณีลูกค้าเปลี่ยนอุปกรณ์ลงแอปใหม่ ลืมรหัส เปลี่ยนเบอร์มือถือ หรือใช้สำหรับยืนยันตัวตนเมื่อเปิดบัญชีใหม่ (เฉพาะบน KMA) สมัครสินเชื่อ ลูกค้าจะสามารถใช้งานแอปได้อย่างสะดวกสบาย

ธนาคารไทยพาณิชย์

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY ธนาคารไทยพาณิชย์ได้แจ้งให้ทราบว่า เราได้กำหนดมาตรการใหม่เพิ่มเติมเมื่อท่านทำการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง หรือมูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุก ๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน จะต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (ไบโอแมตทริกซ์) ก่อนทำการ

3505-Face-Scan-3

นอกจากนี้ เรายังได้เพิ่มระบบการปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ดังนั้น สามารถทำการโอนเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของธนาคารไทยพาณิชย์ได้อย่างราบรื่น ท่านจะต้องนำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบันและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่สาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ธนาคารออมสิน

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ธนาคารออมสินได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบว่าหากต้องการทำการโอนเงินหรือเปลี่ยนแปลงวงเงินมากกว่า 50,000 บาท จะต้องมีการยืนยันตัวตนพร้อมเปรียบเทียบใบหน้าก่อน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างสมบูรณ์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3505-Face-Scan-5

เพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ลูกค้าจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมายืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคาร และอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน โดยทางธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและยืนยันตัวตนของลูกค้าก่อนอนุมัติการทำธุรกรรม

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สาขาของธนาคารออมสินทุกแห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและช่วยเหลือทุกความต้องการของท่าน

นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังขอเรียนให้ผู้ใช้บริการอัปเดตแอปพลิเคชัน MyMo ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อให้คุณสามารถใช้บริการได้อย่างราบรื่น

ธนาคารกรุงไทย

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชัน NEXT และแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ธนาคารกรุงไทยได้เพิ่มมาตรการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า (ไบโอแมตทริกซ์) ที่ยากต่อการปลอมแปลงได้มากกว่าการใช้รหัส OTP ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้า

3505-Face-Scan-7

เพื่อทำการยืนยันตัวตนก่อนการทำธุรกรรมโอนเงินหรือเติมเงินผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว ลูกค้าสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปบันทึกข้อมูลยืนยันตัวตนและถ่ายภาพใบหน้าได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM กรุงไทย สีเทา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

การอัปเดตข้อมูลบัตรประชาชนและใบหน้าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะเมื่อทำการโอนเงินหรือปรับเพิ่มวงเงินผ่านแอปฯ ซึ่งเงื่อนไขการใช้งาน ดังต่อไปนี้

  • การโอนเงินไปยังบุคคลอื่นต้องมีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
  • มูลค่ารวมของการโอนเงินทุกๆ 200,000 บาทต่อวัน
  • ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

ทั้งหมดนี้ก็คือธนาคารที่จะเริ่มใช้ระบบ “สแกนใบหน้า” เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการในการทำธุรกรรมการเงินที่ Firstway ได้รวบรวมมา โดยผู้ใช้บริการจะต้องนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารและอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน รวมถึงถ่ายภาพสแกนใบหน้าด้วย และมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมในการใช้งานแอปพลิเคชัน และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการทางการเงิน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสวมรอย การปลอมแปลง และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า

แชร์บทความนี้:

Facebook
Twitter
Email

สารบัญ

สิ่งที่คุณอาจจะสนใจ